This list details some very important points to keep in mind when creating or managing any pay-per-click campaign. Is this all there is to know about pay-per-click advertising? Absolutely not, but for those new to PPC it should serve as good place to start. Additionally, pay-per-click veterans or at least the moderately-seasoned will want to touch upon these points now and then to brush up on their fundamentals.

Do your keyword homework.

Use Google's free Keyword Tool or sign up for a WordTracker account to find out which keywords are the most competitive. The more competitive the keyword, the more expensive your clicks will be. While you're finding out which keywords are too expensive you'll come across some that aren't being targeted heavily by advertisers. Take a good look at these - they may be your keys to a successful niche campaign.

Don't bunch your ad groups.

You should be striving to separate your ad groups by keyword. Whatever your target, separate your keyword lists into closely related groups containing the same target words and write ads geared specifically to those words. Your ads will show up higher in results based on their quality, and search terms show up bold in results - a click-through rate booster.

Drive home your selling point.

What's your offer? Why are you better than the others? Remember that your ads are going to display with your competitors. The difference between a user clicking your ad and clicking a competitor ad is about 100 pixels on the screen - or a millisecond of time. You need to convince them that you are the one they want. You are better. Grab them.

Don't send users to your home page.

This is perhaps one of the worst things you can do to your Pay-Per-Click campaign. Internet users are notoriously impatient. Send them to your home page when they were searching for a specific product or service and see how fast they leave. Don't waste your advertising budget - send them to optimized landing pages.

Optimize your landing pages.

Your landing pages need to drive something home immediately for your users: "you have landed in the right place." They need to know that, yes, this is what they were looking for, here it is, here is why it is better than the rest and here's the easy thing they need to do to get it. In most cases you'll need to create multiple landing pages based on your different ad groups and keywords, but look at it this way - if your users aren't landing at pages geared exactly to their search phrases they'll leave and take your advertising budget with them.

Don't lie in your ads.

People aren't dumb. If you promise something in your ads you had better well deliver. Otherwise you'll not only waste advertising dollars but damage your brand. Be honest, and focus on points that make you stand out from the competition. Grandiose ad text might bring in clicks, but if it isn't the truth it won't bring in conversions.

Your domain name counts.

In most cases you can display a domain name that you own as the "display domain" but point the ads to a page on a different domain. Why does this matter? If you own a domain name that contains the keyword text it will show up bold and increase conversions. Enter the optimized domain as the displayed domain, point the ads to your landing pages and you can expect higher CTRs in most cases.

Utilize negative keywords.

Google has a new Negative Keyword Tool that will allow you to find negative keywords that you should specify for your ads. Negative keywords are those that you don't want your ads to display for. For example, if you're selling "blue widgets" you don't want to display your ads to those users searching for "free blue widgets." If you don't use negative keywords you are missing out on a chance to get more targeted traffic to your landing pages, and this can really hurt your conversion rates.

Test, test, and test some more.

The greatest thing about internet advertising is the ability it grants you to measure your success. It's easy to create A/B split tests with Pay-Per-Click advertising. Change one word, add a comma, include a value proposition. . .just make sure you only change one thing for each split or you won't know which variable it was that made the difference! You'll find out right away that this is a great way to optimize your click-through rates - just don't forget that clicks aren't everything!

Don't focus too heavily on CTRs.

Getting tons of clicks isn't always the name of the game. In fact, if you aren't using proper techniques to ensure that you're getting targeted traffic and sending it to well-optimized landing pages you can blow through your advertising budget in no time flat. Remember that the success of any advertisement is getting back more than you put in. It's an investment, not a cost - so do all that you can to better your rate of return!

Don't pigeonhole yourself.

We all know that Google AdWords is the most popular Pay-Per-Click service out there. Your competitors know it, your users know it - even your grandma might know it. It would be foolish to ignore Google as a venue for advertising, but don't forget that there are other search engines out there who offer similar services. Yahoo!'s new Panama search system is catching on, and Microsoft's adCenter is nothing to sneeze at either. Both companies are currently offering sweet promotional deals to new Pay-Per-Click advertisers to stay competitive so take advantage and diversify!

วันนี้ผมได้นำบทความดีๆเกี่ยวกับคนที่ทำ Google Adsenseมาฝากกันครับบทความนี้เขียนโดยคุณ โซวบักท้ง เจ้าพ่อแห่งวงการ Google Adsense ของเมืองไทยครับ ไปดูกันเลยครับ

1) High Paying Keyword ไม่ใช่คำตอบ

ยกมาก่อนเป็นข้อแรกเลย เห็นเพื่อนๆบางคนตั้งหน้าตั้งตาหากันซ่ะเหลือเกิน เอาแบบคลิกเดียว เนื้อๆ เน้นๆ ตูขอวันล่ะ 10 คลิกพอ ประมาณนั้น ...... แต่ในความเป็นจริงแล้ว Keyword แพงๆ มันมักจะตามมาด้วย คู่แข่งมหาโหด แข่งกันเลือดสาด อ่ะครับ โอกาสที่จะโปรโมตติดอันดับ ได้ผุดได้เกิดมีน้อยเต็มทน ส่วนตัวผมแล้ว ผมจะหลีกไอ้พวก keyword ที่จ่ายเยอะๆ หนีไปที่ keyword กลางๆ จ่ายอยู่ระหว่าง $0.20 - $1.0 มากกว่าครับ

แต่ถ้าเพื่อนๆสามารถหา keyword แพง แต่คู่แข่งน้อยได้ อันนี้ถือเป็นขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่ อย่าได้เผลอเอาไปบอกใครเชียว !

2) CTR สูงๆ ไม่ใช่ว่าจะได้ตังค์เยอะ

นี่ก็อีกเรื่องครับที่เข้าใจผิดกันมาก หลายๆคนเลยชอบที่จะยัด Ad ลงไปให้มากที่สุด เท่าที่ Google กำหนดให้ เต็มแมกซ์เลย ...... แต่เรื่องที่เพื่อนๆจำเป็นต้องรู้ก็คือ การที่เราใส่ Ad ลงไปเยอะๆเนี่ย มันทำให้พวกเว็บที่จ่ายค่าโฆษณาน้อยๆมันโผล่ขึ้นมาด้วยน่ะครับ ซึ่งมันเป็นผลทำให้รายได้ต่อคลิกของเราน้อยลง ! ดังนั้นหลายครั้งหลายหน ถ้าเราปรับลดเอา Ad ที่เรายัดลงไปออก ถึง CTR จะลดต่ำลง แต่รายได้ของเรากลับมากขึ้น !!

ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับ market ที่เพื่อนๆทำอยู่น่ะครับ ไม่มีสูตรตายตัวสำหรับเรื่องนี้ เพื่อนๆ จะต้องทำการ test แล่ะ track กันเอง ....... แต่จำไว้เลยว่า เป้าหมายของเราคือ รายได้สูงสุด ไม่ใช่ CRT สูงสุด

3) โดน de-index ก่ะ โดนแบน มันคนล่ะเรื่องกันเด้อ !!

เอาแบบง่ายๆ ...... de-index คือ เว็บที่สามารถนำเข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลของ search engine ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกี่หน้าก็ตาม แต่เมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง จำนวนหน้าที่ index เข้าไปแล้วนั้น กลับมีจำนวนลดน้อยลง แต่ยังไม่ถึงกับกลายเป็นศูนย์หน้า

ส่วนการโดนแบน จะคล้ายๆกับการ de-index แต่ว่า จำนวนหน้าที่เคย index มันจะกลายเป็นศูนย์เลยครับ

ในกรณีที่เว็บโดน de-index เราพอจะมีโอกาสชุบชีวิตเว็บนั้นๆขึ้นมาใหม่ได้ครับ อาจจะทำได้โดยการหา back link , การทำ link ชี้ไปจากหน้า home , ฯลฯ

แต่ในกรณีเว็บโดนแบน ...... บอกได้เลยว่ายากครับ !! ยิ่งเป็นเว็บปั่น เว็บไร้คุณภาพ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ โอกาสได้คืนไม่ถึง 1% !!

4) index เยอะไม่ใช่คำตอบ

ผมคิดว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่เลย ให้ความสำคัญกับตัวเลขการ index มากเหลือเกิน ประมาณว่า เว็บตู index พันหน้า หมื่นหน้า แสนหน้า ว่ากันไปนู้น ยิ่งเยอะ ยิ่งหรู ยิ่งไฮโซ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลขพวกนี้มันไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้เสมอไปน่ะครับ ว่าเว็บเราจะมี traffic เยอะหรือเปล่า

กล่าวคือ ตรรกก่ะที่ว่า index เยอะ แล้ว traffic จะเยอะตามเนี่ย มันไม่จริงเสมอไป ........

จำนวนหน้าที่ index เยอะ มันอาจจะหมายถึง หน้าที่เป็น keyword ที่ไม่มีใคร search , หรือ อาจจะเป็นหน้าที่เป็น " ผลการค้นหาเสริม " ซึ่งหน้าพวกนี้ index เยอะไปมันก็ไม่ได้ traffic ครับ แถมท้ายสุด รอสักพัก หน้าเหล่านี้ก็มันจะถูก de-index หายไปกับสายลม .......

index น้อย แต่ traffic เยอะ ........ ย่อมดีกว่า index เยอะ แต่ traffic น้อย แน่นอนครับ

5) เอาแต่สร้าง แต่ไม่ยอมโปรโมต !

วิธีการสร้างเว็บของเพื่อนๆเนี่ย พัฒนาก้าวไกลไปกว่าสมัยก่อนมากๆ ดูเอาจาก script ที่มาวางขายในบอร์ดเรา เดี๋ยวนี้เน้นแนวระบบศูนย์กลางกันมากขึ้น ซึ่งช่วยทุ่นเวลาในการสร้างเว็บได้เยอะเลยหล่ะ

แต่ปัญหาที่ผมเจอในขณะนี้ก็คือ เพื่อนๆเอาแต่สร้างครับ ออกแนว ทำ ๆ ๆ ปั๊ม ๆ ๆ สร้าง ๆ ๆ เสร็จแล้วก็ทิ้งเลย บางคนอาจจะ submit sitemap ซ่ะหน่อย ping ซ่ะที จบแล้ว นั่งรอรับทรัพย์ ซึ่งวิธีแบบนี้แหล่ะครับ ทำให้เว็บของเพื่อนๆไม่สามารถที่จะยืนอยู่ใน search engine ได้นานเท่าที่ควร

ลองหาวิธีเพิ่ม back link ให้มันหน่อยครับ เสียเวลาสักนิด เพื่อชีวิตเว็บที่ยาวขึ้น .....

6) ตั้งหน้า ตั้งตา ทำเว็บปั่นกันอย่างเดียว

" ทำ Adsense ก็เหมือนเล่นรถไฟเหาะ ..... มีขึ้น มีลง มีตีลังกา ... พอครบรอบ ก็วนกลับมาที่จุดเดิม "

ผมได้อ่านข้อความของฝรั่งก็แอบอมยิ้มเหมือนกัน เค้าเปรียบเทียบรายได้จาก Adsense ของเค้า กับการเล่นรถไฟเหาะ ...... ผาดโผนหวาดเสียว ขึ้น ลง ม้วนไป ม้วนมา แต่ท้ายสุด รายได้จาก Adsense ของเค้า ก็กลับมาที่จุด start เหมือนกับตอนเริ่มต้นทำ ..... ( ไม่รู้ว่าคนพูดเนี่ย โดนแบนอ่ะเป่าน่ะ )

จะว่าไปแล้ว ไอ้ข้อความข้างบนนี่ มันก็จริงเหมือนกันครับ ถ้าเพื่อนๆตั้งหน้าตั้งตา ปั่นเว็บกันอย่างเดียว โดยไม่คิดที่จะเจียดเงินที่ได้มา มาลงทุนทำเว็บแบบคุณภาพบ้าง

ถึงเว็บคุณภาพ รายได้อาจจะไม่หวือหวา วูบวาบ สะใจเหมือนก่ะเว็บปั่นก็ตาม แต่มันก็เป็นอะไรที่มั่นคงกว่ามากครับ ไม่ต้องเสี่ยงโดน de-index โดนแบน หรือแม้กระทั่ง โดนปิด account รายได้มันจะมาแบบเรียบๆ แต่ว่าสม่ำเสมอกว่า

เพื่อนๆบางคน ยืนยันว่าก้มหน้าก้มตาปั่นอย่างเดียว แต่จะพัฒนาการปั่นให้เนียนขึ้น เพื่อไม่ให้ Google จับได้ ...... แต่เชื่อผมเถอะครับ หมู ยังไงก็เป็น หมู อยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าเพื่อนๆ จะจับมันแต่งหน้าทาลิปติกให้มันดูดียังไง หมู มันก็ยังเป็น หมู อยู่ดี !!

ช้า หรือ เร็วเท่านั้น เดี๋ยวมันก็โดนจับได้ว่าเป็นหมูปลอมตัวมา !!

7) Adsense เป็น contextual ad ที่ดีที่สุด

แต่ไม่ใช่หนทางในการทำเงินบนเน็ทที่ดีที่สุด
อันนี้ก็พูดมาแล้วหลายครั้งน่ะครับ สิ่งที่เพื่อนๆทำอยู่ในขณะนี้ คือการเป็น นายหน้าค้า traffic ..... กล่าวคือ เราทำเว็บ หา traffic เข้าเว็บมา แล่ะ เราจะต้องคิดว่า เราจะเปลี่ยน traffic ที่หามาได้อย่างยากลำบากนั้น ให้กลายเป็นเงินได้ยังไง .....

จริงอยู่ครับ Adsense เป็น contextual ad ที่ดีที่สุดในขณะนี้ ยังไม่มีเจ้าไหนดีกว่า แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะไม่มีวิธีการเปลี่ยน traffic ให้กลายเป็นเงินวิธีอื่น ที่ดีกว่า Adsense น่ะครับ ........ เอาง่ายๆ บางครั้งแค่เปลี่ยนจาก Adsense เป็นพวก Affiliate Program ธรรมดา มันก็ได้ตังค์เยอะกว่าแล้ว !! แต่สำคัญที่ว่า เพื่อนๆจะต้องเสียเวลาค้นหา และ ทำการทดลองสักหน่อย

Keyword

การใช้ Keyword ในการทำ Search engine Optimization หลายคนที่เป็นมือใหม่อาจไม่มั่นใจหรือใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางให้สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจหรือยังไม่รู้ว่าจะใช้ยังไง ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ อย่ามัวเสียเวลาครับเริ่มต้นกันเลย

1. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ (Title)
   
   ให้เราใส่ Keyword ที่เราต้องการจะใส่โดยให้น้ำหนักจากการเรียงจาก ซ้ายไปขวา
   ตัวอย่างการใช้งาน :
   [title] keyword หลัก , keyword รอง , keyword อื่นๆ [/title] เป็นต้น
   
2. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหัวข้อของเนื้อหา (Heading tag)
   
   โดยการใช้ H1,H2,H3 เป็นต้น
   ตัวอย่างการใช้งาน : [H1] Keyword [/h1] หรือ [H2] Keyword [/H2] เป็นต้น
   
3. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนแรก (First Content)
   
   ให้ใส่ Keyword ไว้ในตำแหน่ง 20 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงก็ได้
   ตัวอย่างการใช้งาน : [BODY][P] Keyword [/P][/BODY]
   
4. ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link)
   
   คือการเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย
   ตัวอย่างการใช้งาน : [a href="http://www.yoursite.com"] Keyword [/a]
   
5. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของหน้า (The last content)
   เพื่อเน้นย้ำหรือใช้ในการสรุปเนื้อหาอาจจะใช้เป็นลักษณะตัวเอียงหรือหนาก็ได้ครับ
   ตัวอย่างการใช้งาน : [P] Keyword [/P] [/BODY]
   
6. ใช้ keyword ที่บริเวณ เมนูเลื่อนลง (Drop Down Menu)
   
   Drop down menu นี้เป็นที่ซ่อน Keyword ที่ดีอีกที่ที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ
   ตัวอย่างการใช้งาน : [FORM] [OPTION] Keyword [/OPTION] [/FORM]
   
7. ใช้ keyword ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ (Folder name,File name)
   วิธีนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจพอสมควรครับกับการทดลองใช้ในหลายๆเว็บที่ผมลอง หากต้องใช้Keyword มากกว่า 1พยางค์ ควรใช้เครื่องหมาย "-" เป็นตัวคั่นกลาง
   ตัวอย่างการใช้งาน :/ Keyword/ Keword.html, Keyword.jpg หรือ Keyword1-Keyword2.html
   
8. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบายรูปภาพ (Images alt tag)
   
   การใช้ tag alt เข้าช่วยนั้นเพราะว่า Sreach engine นั้นไม่รู้จักรูปภาพเราสามารถบอก Sreach engine รู้ ว่าภาพนั้นเป็นภาพของอะไรได้โดยใช้ tag alt นี้เข้าช่วย
   
   ตัวอย่างการใช้งาน : [img src="images address" alt="Keyword"]
   
9. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบาย ลิงค์ (Text link title)
   
   การใช้ text link title นั้นคลายการใช้ tag alt เพียงแต่ tag นี้ใช้อธิบาย link
   
   ตัวอย่างการใช้งาน :[ a href="http://www.yoursite.com" title="Keyword"] Keyword [/a]
   
10. ใช้ keyword จด Domain name ด้วย Keyword (Domain name register)
    
    การใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain name นั้นหากทำได้ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ
    
    ตัวอย่างการใช้งาน : http://www.Keyword.com